คู่นี้มีสถิติที่น่าสนใจคือ เซบีย่า ไม่ชนะเลยตลอด 13 เกมหลังสุดที่เจอกับ บาร์เซโลน่า (โดยเสมอ 3 แพ้ 10 นัด) ซึ่งถ้านับเฉพาะการเจอกันในราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน นั้น บาร์ซ่า ไม่แพ้มาตั้งแต่ปี 2007 แล้ว
อูไน เอเมรี เทรนเนอร์ของเซบีย่า พาทีมเก็บได้แค่ 2 แต้ม จากการลงสนาม 4 เกมหลังสุด โดยเกมนี้พวกเขาไม่มี สเตฟาน เอ็มเบีย กับ มาร์โค มาริน ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ส่วน ฆอร์เค่ อันดูฆาร์ โกเก้ แบ็คขวาติดโทษแบน แต่ได้ ดาเนียล คาร์รีโซ่ กองกลางตัวรับพ้นโทษแบนหวนคืนสู่ทีม แนวรุกวาง โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส, อีวาน ราคิติช และ บิคตอร์ มาชิน บีโตโล่ ช่วยกันปั้นเกมสนับสนุน คาร์ลอส บัคค่า กองหน้าตัวเป้าขาวโคลอมเบีย เข้าทำสกอร์
ทางด้าน "อาซูลกราน่า" บาร์เซโลน่า ภายใต้การคุมทัพของ เคราร์โด้ มาร์ตีโน่ "ตาต้า"เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ จะต้องขาด เนย์มาร์ ดาวยิงตัวเก่งทีมชาติบราซิล ที่มีอาการบาเจ็บรบกวน เช่นเดียวกับ อิบราฮิม อเฟลลาย, อีซัก เกวนก้า และ โจนาธาน โดส ซานโต๊ส นอกจากนั้นทาง จอร์ดี้ อัลบา กับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ สองผู้เล่นคนสำคัญในแนวรับ มาติดโทษแบนพร้อมกัน ทำให้ อาเดรียโน่ คอร์เรอา กับ มาร์ก บาร์ตร้า น่าจะได้โอกาสลงสนามแทน ตามลำดับ แดนกลางวางใจให้ ชาบี เอร์นานเดซ (กัปตันทีม)ผนึกกำลังร่วมกับ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และ อันเดรส อีเนียสต้า สามประสานแดนหน้าส่ง อเล็กซิส ซานเชซ, ลีโอเนล เมสซี่ และ เปโดร โรดริเกซ ลงล่าตาข่ายพร้อมกัน